
เรือนที่พบเห็นทั่วไปในภาคใต้แบ่งออกเป็นเรือนเครื่องผูก
เรือนเครื่องสับ และเรือนก่ออิฐฉาบปูน
โดยเอกลักษณ์ของเรือนภาคใต้อยู่ที่หลังคาเรือนและ เสาเรือนจะเป็นเสาไม้ตั้งบนฐานคอนกรีตเหตุเพราะสภาพ
แวดล้อมทางธรรมชาติเกิดพายุไต้ฝุ่น พายุฝน ลมแรงเสมอ จำเป็นต้องมีโครงสร้างที่แข็งแรงและด้วยเหตุที่จังหวัด
ปัตตานี เป็นจังหวัดที่ผลิตกระเบื้องในสมัยก่อน ฉะนั้น
เรือนในภาคใต้ส่วนใหญ่จึงมักมุงหลังคาด้วยกระเบื้อง
แต่ก็พบเรือนหลังคา ผูกที่ใช้วัสดุธรรมชาติมุงหลังคาด้วยแฝก จาก ฟาก เช่นกัน
หลังคาเรือนภาคใต้มี
3 ลักษณะคือ หลังคาจั่ว หลังคาปั้นหยา หลังคามนิลา หรือ หลังคาบรานอร์ที่พบ
มากจะเป็นบ้านที่มีหลังคาแบบมนิลาหรือบรานอร์ และเพิ่มเติมลายไม้กลมฉลุไม้ที่ส่วนยอดซึ่งพบมากในชุมชนชาว
ไทยมุสลิมหลังคาทั้ง 4 แบบ มีอยู่ทั่วไปแต่สัดส่วนของหลังคาจะมีทรงสูงต่ำอย่างไรขึ้นอยู่กับช่างก่อสร้างและ
วัสดุมุงหลังคาในท้องถิ่นนั้น เช่น ถ้าใช้กระเบื้องดินเผา
หรือใช้ กระเบื้องขนมเปียกปูน หรือ มุงแฝกจาก ความ
ลาดชันของหลังคาจะไม่เท่ากัน
 |
เรือนหลังคาจั่ว
ในชุมชนที่ประกอบอาชีพกสิกรรมและประมงจะปลูกสร้างเรือนหลังคาทรงจั่ว
ไม่มีการตกแต่งหน้าจั่ววัสดุมุงหลังคาส่วนใหญ่ใช้จากแต่บางเรือนที่มีฐานะดีจะ
มุงกระเบื้องเพื่อความมั่นคงแข็งแรง ความลาดชันของหลังคาขึ้นอยู่กับวัสดุมุง
หลังคาในท้องถิ่นนั้นว่าจะใช้กระเบื้องดินเผาหรือกระเบื้องขนมเปียกปูนหรือมุง
แฝกจากเรือนเครื่องผูกหลังคาทรงจั่วปลูกสร้างง่ายด้วยตนเอง
โยกย้ายได้ง่ายวัสดุ
หาง่าย เนือนในภาคใต้ไม่มีรั้วบ้านไม้ที่นิยมใช้ในการก่อสร้างเป็นหลักคือ
|
ไม้เคื่ยมไม้หลุมพอใช้เป็นเสาเป็นรอดส่วนไม้หลาวไม้ค้อไม่ชะโอนใช้ทำโครงสร้างทั่วไป
ส่วนเรือนเครื่องสับ สำหรับผู้มีฐานะดีหลังคาจั่วเป็นรูปตรงทรงไม่สูงตกแต่งหน้าจั่วยอด
จั่วมุงนั้นด้วยกระเบื้องแผ่นสี่เหลี่ยมเชิงชาย และช่องลมใต้เพดานแต่งด้วยไม้ฉลุสวยงาม
ตัวเรือนใต้ถุนยกสูงมีระเบียงและนอกชานลดหลั่นกัน
|
|
 |
เรือนหลังคาปั้นหยา
มีความแข็งแรงของโครงสร้างหลังคาเป็นพิเศษหลังคาตรงหัวท้ายเป็นรูปลาด
เอียงแบบตัดเหลี่ยมหลังคามุงกระเบื้องแผ่นสี่เหลี่ยม ตรงรอยตัดเหลี่ยมหลังคา
ครอบด้วยกันน้ำฝนรั่ว หลังคาแบบนี้โครงหลังคาแข็งแรงมากสามารถทนรับ
ฝนและต้านแรงลม หรือพายุไต้ฝุ่นได้ดีมาก ส่วนใหญ่อยู่ทางจังหวัดสงขลา
|
เรือนหลังคามนิลา 
หรือแบบรานอร์เป็นการผสมผสานหลังคาจั่วผสมหลังคาปั้นหยาคือส่วนหน้าจั่ว
ค่อนข้างเตี้ยจะเป็นจั่วส่วนบนส่วนล่างของจั่วจะเป็นหลังคาลาดเอียงลงมารับกับ
หลังคาด้านยาวซึ่งลาดเอียงตลอดเป็นเรือนไม้ใต้ถุนสูง เรือนแบบนี้ส่วนใหญ่อยู่
ในจังหวัดปัตตานี
|
 |
ลักษณะทั่วไปของเรือนไทยในภาคใต้
เรือนส่วนใหญ่จะวางเสาไว้บนตอหม้อตีนเสาซึ่งจะก่ออิฐฉาบปูนเมื่อต้องการจะทำการย้ายบ้านก็จะ
ปลดกระเบื้องลงตีไม้ยึดโครงสร้างเสาเป็นรูปกากบาทแล้วใช้คนหามย้ายไปตั้งในที่ที่ต้องการนำกระเบื้องขึ้นมุง
ใหม่ ก็สามารถเข้าอยู่ได้ทันทีเรือนไทยในภาคใต้ส่วนใหญ่จะใช้ไม้ในการก่อสร้างรูปทรงของเรือนเป็นเรือนไม้
ใต้ถุนสูงประมาณคนก้มตัวลอดผ่านได้ เสาทุกต้นไม่ฝังลงดินแต่จะตั้งอยู่บนแผ่นปูนหรือแผ่นหินเรียบ
ๆ ที่ฝังอยู่
ในดินให้โผล่ขึ้นมาจากพื้นดินไม่เกิน 1 ฟุต เพื่อกันมิให้ปลวกกัดตีนเสาและกันเสาผุจากความชื้นของดิน
ตีนเสา
ตอนล่างห่างจากพื้นดิน ประมาณ 1- 2 ฟุตจะมีไม้ร้อยทะลุเสาทุกต้นตามความยาวของเรือนทั้ง
3 แถวเพื่อทำหน้าที่
ยึดโครงสร้างของเรือนให้แข็งแรงมากขึ้น
ตัวเรือนกั้นฝาด้วยแผ่นกระดานตีเกร็ดตามแนวนอน
กั้นห้องสำหรับเป็นห้องนอน 1 ห้อง อีกห้องหนึ่ง
ปล่อยโล่ง ด้านหน้าบ้านมีระเบียงด้านข้าง เรือนเครื่องสับในภาคใต้จะทำช่องหน้าต่างแคบ
ๆ ในบางแห่งไม่ทำเลย
ก็มีเพราะเกรงฝนสาดเนื่องจากฝนตกชุกและมีลมแรงจัดหลังคาทำทรงจั่วถากจันทันให้แอ่นแบบเดียวกับเรือนไทย
ภาคกลางแต่ทรวดทรงเตี้ยกว่าเล็กน้อย ติดแผ่นปั้นลมแบบหางปลา ไม่นิยมทำตัวเหงา

|